เบื้องต้น
-
ตารางเรียนช่วงเช้าจะเรียนปกติจะเรียนเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานที่จะต้องเรียน ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ ประวัติศาสตร์ไทยและสากล คอมพิวเตอร์ สุขศึกษา ศิลปะ แนะแนวและดนตรี
-
เวลาการเรียนม.ต้น เรียน 1คาบต่อ 50นาที ( คาบ๑ 08:30น. - 09:20น. | คาบ๒ 09:30น. - 10:20น. | คาบ๓ 10:30น. - 11:20น. )
-
ม.ปลายเรียน 1คาบต่อ 60นาที ( คาบ๑ 08:30น. - 09:30น. | คาบ๒ 09:40น. - 10:40น. | คาบ๓ 10:50น. - 11:50น. )
-
( โดยจะเว้นไว้10นาทีให้นักเรียนได้ทำธุระส่วนตัวและเดินย้ายห้องเรียนไปยังอีกห้อง )
-
ตารางเรียนช่วงบ่ายจะเรียนเกี่ยวกับวิชาปราบวิญญาณ การใช้เวทย์อาคมตามสายและหน่วยที่ตัวเองเลือกเรียน เวลาการเรียนคือ ถ้าหากเลือกเรียนแค่หน่วยเดียวคือเรียนทั้งคาบบ่าย ถ้าหากเลือกเรียนสองหน่วยจะต้องแบ่งเวลาตามนี้
-
ม.ต้น 12:50น. - 15:30น. (เรียนสองหน่วย คาบ๑ หน่วยหลักที่เรียน 12:50น. - 14:30น. หน่วยรองที่เรียน คาบ๒ 14:35น. - 15:30น.)
-
ม.ปลาย 13:00น. - 16:00น. ( เรียนสองหน่วย คาบ๑ 13:00น. - 14:30น. หน่วยรองที่ต้องเรียน คาบ๒ 14:40น. - 16:00น. )
-
-
ม.ต้นยังคงเรียนภาคบังคับไม่สามารถดรอปเรียนได้
-
โรงเรียนจะไม่มีการบ้านให้นักเรียนเนื่องจากนักเรียนเหนื่อยมาทั้งวันแล้วแต่ถ้ามีงานค้างนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง
-
อาวุธหากเป็นพวกปืน ดาบเลเซอร์ หรือพวกหุ่นเชิดหุ่นยนต์ จะไม่ใช่ของบริษัทบุษกร จะเป็นอาวุธที่ส่งจากกระทรวงเวทย์มนต์โดยเฉพาะ เพราะเป็นอาวุธที่มีอาคมติดอยู่ โดยนักเรียนที่ลงสายดิจิทัลอาคมจะได้รับกันทุกคนอย่างถาวร หากต้องซ่อมส่งมาซ่อมที่บริษัทบุษกรได้ แต่ถ้าหากพังจนใช้ไม่ได้ก็จะไม่มีให้ใช้อีกนักเรียนต้องเปลี่ยนไปใช้อาวุธอื่น โปรดรักษามันเท่าชีวิตหรือลูกเมียคนหนึ่ง
-
นักเรียนจะต้องเลือกลงเรียนกับครูที่จะสอนในแต่ละหน่วยด้วย หรือง่ายๆสามารถเลือกครูผู้สอนในแต่ละหน่วยเองได้ การสอนของครูแต่ละคนจะแตกต่างกัน หากครูคนไหนไม่ยอมสอนหรือไม่ค่อยได้สอนให้รีบมาแจ้งผอ.ทันที ผอ.จะทำการลงโทษที่ละเลยหน้าที่ ( ไม่นับในกรณีที่เป็นวิชาปกติ )
-
การเรียนการสอนของทั้งสองสายจะแตกต่างกันแม้ว่าจะเป็นเดียวหน่วยกันก็ตาม
สายและหน่วย ในการเรียนวิชาปราบมาร แบ่งเป็น ๒ สาย ๖ หน่วยย่อย


สายดิจิทัลอาคม
เป็นสายที่เรียนเกี่ยวการวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับไสยศาสตร์ เพื่อศึกษาในการนำธาตุ5มาใช้ทดแทนธาตุทั้ง4แล้วผนวกเทคโนโลยีในปัจจุบันรวมกับพลังเวทย์ เด็กในสายนี้นำเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ต่างๆแล้วรวมเข้ากับเวทย์อาคมเพื่อให้เกิดสิ่งแปลกใหม่
เด็กๆสายนี้เวลาเรียนส่วนใหญ่ช่วงเปิดเทอมแรกๆอาจจะต้องอยู่ในห้องแลป เพื่อศึกษาและทดลองอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับโครงสร้างต่างๆของอุปกรณ์อิเล็กเทอร์นิก อุปกรณ์แอพพิเคชั่น เหล่าธาตุย่อยต่างๆของธาตุที่5 เรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และวิยาการคำนวณ ฯลฯ ประมาณ3เดือน ของเทอมหนึ่งก่อนจะได้ไปฝึกในป่าเหมือนกับสายไสยเวทย์ดั้งเดิม แต่ก็ใช่ว่าจะอยู่ในห้องแอร์และต้องจดอย่างเดียวพวกเขาเหล่านี้ต้องเรียนภาคปฏิบัติไปในเวลาเดียวกันด้วย
อาวุธและอุปกรณ์ของสายนี้ที่เห็นได้เด่นๆคือ ดาบเลเซอร์ ปืน แท็บเล็ต เป็นต้น แต่ถ้าเป็นสิ่งที่นักเรียนประดิษฐ์ขึ้นเองก็ได้ ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ที่ควบคุมได้จากระยะไกลด้วยพลังไสยเวทย์หรือคำสั่งโปรแกรมที่ผู้สร้างใส่เข้าไป ปีกที่สร้างเพื่อให้ผู้ใช้ได้สามารถเหาะบนฟ้าได้โดยจะควบคุมด้วยพลังไสยเวทย์ และอีกต่างๆนาๆที่เด็กๆในสายนี้ได้สร้างขึ้นมา แต่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธตามที่ยกตัวอย่างมาก็ได้ จะใช้อะไรก็ได้แล้วแต่จะเลือกเลย
สายไสยเวทย์ดั้งเดิม
เป็นหน่วยที่ใช้ไสยศาสตร์ วิชาอาคม อาวุธโบราณ กระบวนท่าในการต่อสู้อย่าง มวย และใช้เหล่าภูติผีปีศาจในการต่อสู้ เด็กในสายนี้จะเน้นภาคปฏิบัติเป็นหลักในการใช้อาคม แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอันต่อผู้ที่มีวิชาไม่แก่กล้าพอเพราะบางทีสิ่งเหล่านั้นก็อาจจะย้อนคืนสู่ผู้ใช้ที่เป็นผู้ใช้วิชามือใหม่
ทางโรงเรียนช่วงแรกจึงจะยังไม่สอนเกี่ยวศาสตร์มนต์ดำที่ดูจะอัปมงคลจริงๆให้กับนักม.ต้นแต่จะสอนแค่ม.ปลายแบบคร่าวโดยไม่ให้ปฏิบัตินี้ก็เพื่อตัวนักเรียนเองด้วยเช่นกันแต่ถ้านักเรียนอยากทำต้องไปศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองและต้องมีผู้ปกครองคอยดูแล
โดยนักเรียนจะมีการฝึกใช้เวทย์มนต์และอาคมและบางทีก็จะใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาวุธของตนเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานอาวุธที่เห็นได้ชัดในสายนี้ก็จะเป็นอาวุธโบราณต่างๆ เช่น ดาบ ดาบคู่ หอก ธนู ทวน จักร คทา และอื่นๆอีกอย่างก็จะเป็นอาวุธที่ร่างกายอย่างกระบวนท่าของมวยไม่ว่าจะชาติไหนๆก็ตาม แต่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธตามนี้ก็ได้ จะใช้อะไรก็ได้แล้วแต่จะเลือกเลย

( หน่วยหลักอยู่ได้ไม่เกิน2 หน่วย หน่วยเสริมอยู่ได้แค่1หน่วย )
หน่วยโจมตี
หน่วยแนวหน้า ผู้กล้าเผชิญหน้ากับศัตรู ไร้ซึ่งความหวาดหวั่น เป็นดั่งโล่เหล็กและคมดาบในเวลาเดียวกัน คอยปกป้องแนวหน้ากับหลังด้วยร่างกายที่แกร่งกล้า และบดขยี้ศัตรูด้วยการโจมตีอันหนักหน่วง ยืนหยัดเป็นแนวกำแพงแรกแห่งชัยชนะของทีม

หน่วยลอบสังหาร
หน่วยเงาแห่งสนามรบ เป็นผู้ระวังภัยในความเงียบงัน คอยซุ่มโจมตีจากมุมมืด หาตัวจับได้ยาก เป็นมือลอบสังหารผู้ไร้เงา ใช้ไหวพริบวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างเฉียบคม มองการณ์ไกล คาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ มีทักษะการพรางตัวเหนือชั้น สะกดรอยศัตรูราวกับเงาตามตัว มีกลยุทธ์หลากหลาย พร้อมปรับใช้ได้ในทุกสถานการณ์ และสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างรวดเร็ว พร้อ มเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์อย่างชาญฉลาด


(โปรดอย่าบลูลี่ท่าจับปืน คนวาดเขาวาดไม่เป็น)

หน่วยไสยเวทย์
จอมเวทย์แห่งสนามรบ ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งดำและขาว หลอมรวมไสยศาสตร์ เวทมนตร์ และอาคมโบราณเข้ากับเทคโนโลยี พัฒนาอาวุธให้แกร่งกล้ายิ่งกว่าเดิม และปลุกพลังแฝงในอุปกรณ์ทุกชิ้น คอยร่ายเวทโจมตีศัตรูจากระยะไกล หรือสนับสนุนแนวหน้าด้วยมนตรา เขาคือสมองและพลังลับของทีมในเงามืดแห่งสงคราม


หน่วยแพทย์
ผู้เยียวยาแห่งสนามรบ ผู้เข้าใจทั้งความเจ็บปวดของร่างกายและบาดแผลในจิตใจ ใช้วาทศิลป์อันอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมจิตวิญญาณ พร้อมรักษาด้วยศาสตร์ทั้งวิทยาการทางการแพทย์ เวทมนตร์ และสมุนไพรจากฝีมือตนเอง ไม่เพียงแค่เยียวยาบาดแผลที่มองเห็น แต่ยังเข้าถึงหัวใจของผู้บาดเจ็บอย่างแท้จริง คือแสงสว่างในยามที่ทุกคนต้องการที่สุด

หน่วย เสริม ๒ หน่วย
เป็นหน่วยที่จะเข้าหรือไม่ก็ได้แต่จะมีเวลาเรียนพิเศษเพิ่มขึ้นสำหรับนักเรียนที่อยากเข้าหน่วยนี้ สามารถเข้าออกได้เทอม1ไม่เกิน3ครั้งหรือจะอยู่ถาวรก็ตามสบาย หน่วยนี้จะพิเศษเนื่องจากว่าจะมีกิจกรรมเยอะกว่าหน่วยอื่นนิดหน่อยด้วยความที่มีเวลาเรียนเพิ่มขึ้น
-
( ม.ต้นจะเริ่มเรียนหน่วยเสริมนี้ตั้งแต่เวลา 16:20น. - 19:50 น. )
-
( ม.ปลายจะเริ่มเรียนหน่วยเสริมนี่ตั้งแต่เวลา 16:50น. - 20:30 น. )

หน่วยอัญเชิญ
เป็นหน่วยที่จะคอยอัญเชิญหรือทำสัญญากับเหล่าอสูรภูติผีพรายต่างๆเพื่อนำมาใช้งาน ทั้งนี้เหล่าวิญญาณดุร้ายถ้าหากนำมาทำสัญญาผู้ใช้ต้องเลี้ยงดูและควบอย่างดีเพื่อให้มาทำร้ายนักเรียนคนอื่นๆในโรงเรียน
-
( ม.ต้นมีสัตว์อัญเชิญได้ไม่เกิน 1 ตัว )
-
( ม.ปลายมีสัตว์อัญเชิญได้ไม่เกิน 2 ตัว )
-
( อาจารย์มีสัตว์อัญเชิญได้ไม่เกิน 5 ตัว )
( ถ้าหากเป็นนักเรียนที่เข้าออกชั่วคราวในหน่วยทางโรงเรียนจะไม่อนุญาตให้ใช้สัตว์อัญเชิญในระหว่างที่ไม่ได้บรรจุอยู่ในหน่วย )


หน่วยผลึก

เป็นหน่วยเสริมพิเศษที่จะจับเหล่าอสูร ภูติผีต่างๆมาผลึกไว้เก็บวิจัยศึกษาหรือเก็บไว้เป็นสัตว์อัญเชิญตัวต่อไป หรือจะเป็นความรู้สึกส่วนตัวอย่างการเก็บไว้สะสม แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า หากนักเรียนคนใดอยากสะสมโปรดเก็บให้ดีๆเพราะผีบางอาจจะมีฤษธิ์แก่กล้าพอจะทำลายยันต์ที่ขังไว้ได้ โดยจะเก็บอสูรได้ถึง10ตัว ถ้าเกินต้องให้ผู้ปกครองมาขออนุญาตเท่านั้น! แม้จะมีสัตว์อัญเชิญแต่ก็ไม่สามารถใช้สัตว์อัญเชิญได้หากบรรจุอยู่